7 วิธีแก้ Wi-Fi อ่อน เน็ตแรงขึ้นทันตาเห็น!

7 วิธีแก้ Wi-Fi อ่อน เน็ตแรงขึ้นทันตาเห็น!

ในยุคดิจิทัล อินเทอร์เน็ตคือส่วนสำคัญในชีวิต แต่ปัญหา Wi-Fi อ่อนหรือสัญญาณช้า อาจสร้างความหงุดหงิดได้ บทความนี้มี 7 วิธีแก้ปัญหา พร้อมแนะนำอุปกรณ์เสริมอย่าง Access Point, Switch และ Module เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายในบ้านหรือสำนักงานของคุณ!

 

 

1. วางเราเตอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม

 

 

1. วางเราเตอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม

 

ตำแหน่งของเร้าเตอร์  มีผลอย่างมากต่อความแรงของสัญญาณ Wi-Fi หากวางในจุดที่สัญญาณถูกกีดขวาง เช่น หลังตู้หรือในมุมอับ อาจทำให้สัญญาณ Wi-Fi อ่อนลง ควรวางเราเตอร์ในตำแหน่งที่เปิดโล่ง เช่น กลางบ้านหรือสำนักงาน เพื่อให้สัญญาณกระจายได้ทั่วถึง

 

เคล็ดลับ:

 

  • วางเร้าเตอร์ในจุดที่สูงขึ้น เช่น บนชั้นวางของ

 

  • หลีกเลี่ยงการวางใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อาจรบกวนสัญญาณ เช่น ไมโครเวฟ หรือโทรศัพท์บ้านแบบไร้สาย

 

 

2. อัพเกรดอุปกรณ์เครือข่าย

 

 

2. อัพเกรดอุปกรณ์เครือข่าย

 

เร้าเตอร์รุ่นเก่ามักไม่รองรับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงในปัจจุบัน แต่การอัพเกรดเราเตอร์หรือเพิ่ม Access Point สามารถช่วยขยายสัญญาณ Wi-Fi ให้ครอบคลุมพื้นที่ได้ดีขึ้น

 

Access Point คืออะไร?

Access Point คืออะไร

Access Point คืออุปกรณ์ที่ช่วยกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้ครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะในบ้านหรือสำนักงานที่มีหลายห้องหรือหลายชั้น

 

วิธีเลือก Access Point:

 

  • เลือกอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6 เพื่อความเร็วและเสถียรภาพที่ดียิ่งขึ้น

 

  • ตรวจสอบความสามารถในการเชื่อมต่อกับเราเตอร์หลัก

 

อ่านบทความเจาะลึก: สุดยอดคู่มือ แอคเซสพอยต์ ฉบับปี 2025

 

 

3. ใช้ Switch เพื่อจัดการเครือข่าย

 

 

3. ใช้ Switch เพื่อจัดการเครือข่าย

Switch เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเชื่อมต่อเครือข่ายแบบมีสาย (Ethernet) และช่วยกระจายการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับบ้านหรือสำนักงานที่มีการใช้อุปกรณ์หลายชิ้น

 

ประโยชน์ของการใช้ Switch:

 

  • ลดการแย่งกันใช้สัญญาณ Wi-Fi

 

  • เพิ่มความเสถียรสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการการเชื่อมต่อแบบมีสาย เช่น คอมพิวเตอร์หรือ Smart TV

 

วิธีติดตั้ง Switch:

 

  • เชื่อมต่อ Switch กับเราเตอร์ผ่านสาย LAN

 

  • เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับ Switch เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต

 

-7%

1300 SERIES

C1300-24XS

Original price was: 97,000 บาท.Current price is: 89,900 บาท. รวม Vat7%

CBS110 SERIES

CBS110-8PP-D-EU

5,100 บาท รวม Vat7%

CBS110 SERIES

CBS110-5T-D-EU

2,100 บาท รวม Vat7%

CBS250 SERIES

CBS250-24FP-4G-EU

24,300 บาท รวม Vat7%

CBS110 SERIES

CBS110-24PP-EU

12,300 บาท รวม Vat7%
197,600 บาท รวม Vat7%

CBS350 SERIES

CBS350-24T-4X-EU

28,100 บาท รวม Vat7%
-4%

1000 SERIES

C1000-24FP-4G-L

Original price was: 78,000 บาท.Current price is: 74,900 บาท. รวม Vat7%

 

4. ใช้ Module ขยายสัญญาณ

 

 

4. ใช้ Module ขยายสัญญาณ

Module หรือ Repeater เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยขยายสัญญาณ Wi-Fi ไปยังพื้นที่ที่สัญญาณอ่อนหรือไม่มีสัญญาณเลย

 

วิธีเลือก Module:

 

  • เลือกอุปกรณ์ที่รองรับความเร็วและย่านความถี่เดียวกับเราเตอร์

 

  • ติดตั้งในจุดที่สัญญาณ Wi-Fi เริ่มอ่อน

 

ข้อดีของ Module:

 

  • ราคาประหยัดเมื่อเทียบกับการติดตั้ง Access Point

 

  • ติดตั้งง่ายและสะดวก

 

อ่านข่าวอัปเดตก่อนใคร: ฮีโร่เครือข่าย Wi-Fi สู่เครื่องมือช่วยชีวิตเมื่อเกิดภัยพิบัติ 2025

 

 
 

 

 

-32%

1G TRANSCEIVER

GLC-LH-SMD

Original price was: 1,850 บาท.Current price is: 1,250 บาท. รวม Vat7%

10G TRANSCEIVER

SFP-10G-ZR

18,500 บาท รวม Vat7%
-33%

1G TRANSCEIVER

GLC-SX-MMD

Original price was: 1,500 บาท.Current price is: 1,000 บาท. รวม Vat7%

1G TRANSCEIVER

GLC-ZX-SMD

5,000 บาท รวม Vat7%

10G TRANSCEIVER

SFP-10G-ER

9,500 บาท รวม Vat7%
-11%

10G TRANSCEIVER

SFP-10G-T

Original price was: 4,500 บาท.Current price is: 4,000 บาท. รวม Vat7%

1G TRANSCEIVER

GLC-ZX-SMD-120KM

7,500 บาท รวม Vat7%
-14%

10G TRANSCEIVER

SFP-10G-SR

Original price was: 3,500 บาท.Current price is: 3,000 บาท. รวม Vat7%

 

5. ปรับแต่งการตั้งค่าเราเตอร์

 

 

5. ปรับแต่งการตั้งค่าเราเตอร์

 

การตั้งค่าเร้าเตอร์ที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มความเร็วและเสถียรภาพของเครือข่ายได้

 

ขั้นตอน:

 

  • เปลี่ยนช่องสัญญาณ (Channel) เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนจากเครือข่ายใกล้เคียง

 

  • ตั้งค่าความปลอดภัยเป็น WPA3 เพื่อป้องกันการเข้าถึงจากผู้ไม่ประสงค์ดี

 

  • ใช้ QoS (Quality of Service) เพื่อจัดลำดับความสำคัญของแอปพลิเคชันที่ใช้อินเทอร์เน็ต

 

 
 

 

 

 

6. ใช้สาย LAN สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียร

 

 

6. ใช้สาย LAN สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียร

 

การเชื่อมต่อผ่านสาย LAN ยังคงเป็นวิธีที่ให้ความเร็วและความเสถียรดีที่สุด โดยเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง เช่น คอมพิวเตอร์หรือเครื่องเล่นเกมคอนโซล

 

เคล็ดลับ:

 

  • ใช้สาย CAT 6 หรือ CAT 7 เพื่อความเร็วที่สูงขึ้น

 

  • จัดการสายให้เรียบร้อยเพื่อความสะดวกและปลอดภัย

 

 
 

 

 

 

7. อัพเดตเฟิร์มแวร์และตรวจสอบปัญหาเครือข่าย

 

 

7. อัพเดตเฟิร์มแวร์และตรวจสอบปัญหาเครือข่าย

 

การอัพเดตเฟิร์มแวร์ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องและเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์เครือข่าย

 

วิธีอัพเดต:

 

  • เข้าสู่หน้าการตั้งค่าเราเตอร์ผ่านเบราว์เซอร์

 

  • ตรวจสอบเวอร์ชันเฟิร์มแวร์และอัพเดตหากมีเวอร์ชันใหม่

 

การตรวจสอบปัญหาเครือข่าย:

 

  • ใช้แอปพลิเคชันตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต เช่น Speedtest

 

  • ตรวจสอบจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อและจำกัดการใช้งานที่ไม่จำเป็น

 

 
 

 

 

 

สรุป

 

 

ปัญหา Wi-Fi อ่อนสามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับแต่งตำแหน่งอุปกรณ์ การใช้อุปกรณ์เสริม เช่น Access Point, Switch และ Module รวมถึงการปรับแต่งการตั้งค่าเครือข่าย การลงทุนในอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและการตรวจสอบการใช้งานเครือข่ายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณได้ประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น

 

ติดต่อเราเพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสั่งซื้อ

 

 

FAQ (คำถามที่พบบ่อย)

 

 

Q1: Wi-Fi 6 แตกต่างจาก Wi-Fi 5 อย่างไร?

Answer: Wi-Fi 6 มีความเร็วสูงกว่า รองรับอุปกรณ์ได้มากขึ้น และลดการรบกวนสัญญาณระหว่างอุปกรณ์ได้ดีกว่า Wi-Fi 5 รวมถึงมีฟีเจอร์ OFDMA และ MU-MIMO ที่เพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายโดยรวม

 

Q2: Mesh Wi-Fi เหมาะสำหรับบ้านแบบไหน?

Answer: Mesh Wi-Fi เหมาะสำหรับบ้านขนาดใหญ่หรือบ้านที่มีหลายชั้น ซึ่งสัญญาณจาก Router ตัวเดียวไม่สามารถครอบคลุมได้ทั่วถึง

 

Q3: Access Point ต่างจาก Router อย่างไร?

Answer: Router เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่กระจายอินเทอร์เน็ตให้กับอุปกรณ์ในเครือข่าย ในขณะที่ Access Point เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยขยายหรือเพิ่มพื้นที่การครอบคลุมของ Wi-Fi

 

Q4: ควรใช้ Switch ในกรณีใด?

Answer: ควรใช้ Switch เมื่อมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายตัวผ่านสาย LAN และต้องการการจัดการเครือข่ายที่เสถียรและรวดเร็ว

 

Q5: ควรเปลี่ยน Router บ่อยแค่ไหน?

Answer: ควรเปลี่ยน Router ทุก 3-5 ปี หรือเมื่ออุปกรณ์เริ่มไม่รองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Wi-Fi 6 เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีที่สุด

 

 

Paiboontech

ตัวแทนจำหน่าย
อุปกรณ์ไอที
ยี่ห้อชั้นนำ

ราคาพิเศษ จัดส่งฟรี

Facebook Inbox: https://www.facebook.com/Paiboontech 
Hotline: 02-921-7892
Line@ : @paiboontech
Email: sale@pbt.co.th

 
 

 

 

Author (ผู้เขียน)

Author

Ratchanan J.

ปริญญาตรีสาขาการค้าระหว่างประเทศและธุรกิจโลจิสติกส์

ปลดล็อกไอทีทุกมุมมอง ด้วยคีย์บอร์ดและสมองไวไฟ

ชัดเจนทุกบรรทัด สร้างสรรค์ทุกคอนเทนต์

ratchanan@pbt.co.th

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.