การแข่งขันชิงคลื่น 2100 และ 2300 MHz ระหว่าง AIS และ TRUE ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2025 มีผลอย่างไรต่ออนาคตเครือข่ายมือถือและตลาดอุปกรณ์ไอที อ่านรายละเอียดได้ที่นี่
การแข่งขันด้านเครือข่ายมือถือดุเดือดขึ้นอีกครั้ง
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2025 กลายเป็นวันที่ทั้งวงการโทรคมนาคมต้องจับตามองอีกครั้ง เมื่อสองยักษ์ใหญ่ของไทยอย่าง AIS และ TRUE เปิดตัวลงสนามประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz และ 2300 MHz ซึ่งถือเป็นย่านความถี่ที่สำคัญสำหรับการพัฒนาเครือข่าย 5G และบริการดิจิทัล
การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการชิงความเป็นผู้นำในตลาดโทรคมนาคม แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดสินค้าไอทีในไทยด้วย โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ต้องรองรับเทคโนโลยี 5G และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ต้องปรับตัวให้รับกับการพัฒนาเครือข่าย
คลื่นความถี่ 2100 และ 2300 MHz สำคัญอย่างไร?
คลื่นความถี่ทั้งสองช่วงนี้มีบทบาทสำคัญในโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมือถือ ดังนี้:
- ● 2100 MHz: เป็นคลื่นที่ถูกใช้สำหรับ 3G และ 4G และยังคงมีบทบาทในยุค 5G เพื่อช่วยให้มีการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมมากขึ้น
- ● 2300 MHz: เป็นหนึ่งในคลื่นความถี่ที่รองรับ 4G และ 5G โดยเฉพาะสำหรับการเพิ่มแบนด์วิดท์ให้สูงขึ้นและลดความแออัดของเครือข่าย
เปิด มุมมองจากผู้บริหาร AIS และ TRUE
คุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ คุณมนัสส์ มานะวุฒิเวช
AIS มองว่าต้องพิจารณาราคากลางอย่างรอบคอบ
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ได้กล่าวว่า “บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ทุกย่านที่ กสทช. เปิดประมูล แต่ต้องพิจารณาราคากลางที่กำหนดอย่างเป็นทางการก่อน”
นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นว่าที่ผ่านมา ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้จ่ายค่าคลื่นความถี่ให้กับ กสทช. ไปแล้วรายละกว่า 2 แสนล้านบาท และเสนอว่าราคากลางประมูลคลื่นความถี่ควรจะสมเหตุสมผล ไม่ใช่อ้างอิงจากราคาประมูลเก่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
TRUE พร้อมเข้าประมูลเพื่อต่อยอดเครือข่าย
ในขณะเดียวกัน นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ได้เปิดเผยว่า “บริษัทสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 2100 และ 2300 เมกะเฮิรตซ์ เนื่องจากเชื่อมั่นในคุณสมบัติของเทคโนโลยีของคลื่นเหล่านี้ เพื่อมาต่อยอดคลื่นความถี่เดิมที่มีอยู่”
ขอขอบคุณ รายงานข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ
ผลกระทบต่อตลาดอุปกรณ์ IT และ Network
1. ยอดขายอุปกรณ์เครือข่ายเติบโตขึ้น
การแข่งขันเพื่อพัฒนาเครือข่ายมือถือ 5G จะส่งผลให้มีความต้องการอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Router, Access Point, Network Switch, SFP Module ที่รองรับ 5G และ Wi-Fi 6/6E เพิ่มสูงขึ้น
2. ผู้ใช้งานอัปเกรดอุปกรณ์เร็วขึ้น
การขยายเครือข่าย 5G จะกระตุ้นให้ องค์กรและผู้ใช้ทั่วไป หันมาอัปเกรดอุปกรณ์ของตนให้รองรับ 5G มากขึ้น เช่น สมาร์ทโฟน, IoT Devices และ Network Infrastructure
3. การแข่งขันในตลาดสินค้าไอทีดุเดือดขึ้น
บริษัทไอทีและผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์เครือข่ายจะต้องปรับตัวเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G โดยมีการนำเข้าและพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ที่รองรับความเร็วและเสถียรภาพของเครือข่ายมากขึ้น
บทสรุป
การประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz และ 2300 MHz ของ AIS และ TRUE ไม่ใช่แค่เรื่องของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อ อุตสาหกรรมไอทีและอุปกรณ์เครือข่าย อย่างชัดเจน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดอุปกรณ์ไอทีเติบโตไปพร้อมกัน
ในฐานะผู้ใช้งานและธุรกิจด้านไอที การติดตามการแข่งขันและแนวโน้มของตลาดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถปรับตัวและใช้โอกาสจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Facebook Inbox: https://www.facebook.com/Paiboontech
Hotline: 02-921-7892
Line@ : @paiboontech
Email: sale@pbt.co.th
Author (ผู้เขียน)
Ratchanan J.
ปริญญาตรีสาขาการค้าระหว่างประเทศและธุรกิจโลจิสติกส์
ปลดล็อกไอทีทุกมุมมอง ด้วยคีย์บอร์ดและสมองไวไฟ
ชัดเจนทุกบรรทัด สร้างสรรค์ทุกคอนเทนต์
ratchanan@pbt.co.th